วันพฤหัสบดีที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2559


คนในรถเก๋งคนหนึ่งไล่ตามชายถือกล่องไฟถ่ายภาพ

เขาโดดถลาลงจากที่นั่งจนหัวคะมำพอตั้งหลักได้ก็ออกวิ่ง คนในรถเก๋งคนหนึ่งไล่ตามในขณะที่คนขับรถเก๋งเคลื่อนรถตามมาด้วยนายฮวยจุยจึงหนีไม่พ้นถูกกระชากยัดเข้าไปในรถคันนั้นคนขับคงรู้อยู่แล้วว่าจะทำอย่างไรเมื่อรถเก๋งมาถึงสี่แยกผ่านฟ้าก็เลี้ยวขวาเร่งรถเต็มที่ตรงไป light box ผ่านอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สี่แยกคอกวัวตรงดิ่งไปเลี้ยวซ้ายแล้วชิดขวาเพื่อวนเข้าสนามหลวงเวลายังเช้าอยู่ประมาณ ๐๖.๓๐ น.ผู้คนยังไม่พลุกพล่าน เก๋งคันนั้นเลี้ยวขวามุ่งมาทางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติแล้วชะลอถีบคนสี่คนออกมาจากรถเก๋งหลังจากที่ควักรื้อเอาทองคำและทรัพย์สินในตัวคนเหล่านั้นจนหมดแล้วทั้งสี่คนกลิ้งไม่เป็นท่าใกล้กับประตูหอประชุมใหญ่ของมธก. จากนั้นเก๋งมหาภัยก็แล่นเลยไปเจ้าของท้องที่คือสถานีตำรวจชนะสงครามเจอเหตุอุกฉกรรจ์แต่เช้าตรู่ พ.ต.ต.จำรัส มังคลารัตน์ สารวัตร มือปราบของยุคนั้นจัดแจง กล่องไฟ lightboxระดมกำลังออกตามล่าปล่อยให้นายร้อยเวรทำบันทึกปากคำโดยละเอียดแล้วไม่นานนักก็ได้รับรายงานว่าฮิลแมนเก๋งคันนั้นจอดทิ้งอยู่ย่านบางนาพฤติกรรมอย่างนี้ต้องถือว่าไม่ปรากฏเป็นข่าวบ่อยนัก จึงเป็นข่าวใหญ่ทั้งของพิมฟ้ไทยด้วยจากรถเก๋งทึคนร้ายจอดทิงเอาไว้นันฝ่ายสืบสวนใช้เป็นแนวทางทีจะไปยู่การจับกุมพ.ต.ต.จำรัสไม่ยอมเปิดปากพูดอะไรทั้งสิ้น รวมแม้กระทั้งนายร้อยเวรผู้ทำคดีเรียกว่าเป็นยุคของการทำงานมากกว่าพูดต่อจากนั้นมาประมาณห้าวันบ.ก.สมพูรณ์ก็เก็บรวมเอาข่าวสารเกี่ยวกับการจับกุมมาปรากฏว่าเป็นนายตำรวจสองคน คนหนึ่งมียศเป็นร.ต.ท.ชื่อพิขัยเข้าเวรรักษาการณ์ที่โรงไฟฟ้าวัดเลียบ อีกคนร.ต.ท.เฉลิมเป็นรองสารวัตรประจำสถานีตำรวจพระราชวังเข้าเวรรักษาการณ์ที่เรีอนจำลหุโทษการทำงานของฝ่ายสืบสวนขยายผลไปให้มีการจับกุมอีกหลายคนคือ นายพลอย นายผาย กล่องไฟสตูดิโอและนางสังวาลยในท้องที่สำเหร่ และอีกคนชื่อนางลัดดาอยู่สืแยกมหานาคเมื่อได้ผู้ต้องหามาแล้วก็ใช้วิธีแยกกันสอบปากคำเป็นวิธีที่ทำให้เห็นความแตกต่างแถมบางคนอาจจำนนเปิดปากบอกถึงผู้ร่วมมืออีกด้วยข่าวนี้ติดตามโดยสมบุรณ์วิริยดีริพะยี่ห้อให้เห็นเหมือนวันต่อมาก็มีซื่อสนิท เอกชัย กับบรรจบแก้วศิลป็-ข่าว และอนันต์ โกญจนาท ถ่ายภาพข่าววันนั้นต้องแยกกันทำเพราะเล้นทางไกลถึงท่าใหม่ จันทบุรีแถมยังมืสายงานตำรวจในกรุงเทพฯ ด้วยที่ท่าใหม่เราจึงใช้จี๊ปที่ใช้ตระเวนข่าวห้อตามรถตำรวจไปจนถึงบ้านเขาพลอยแหวน แถมยังต้องเดินต่ออีกราว 10ก.ม. จึงถึงที่หมายเป็นบ้านพักเหมือนจะเห็นตำรวจนายอุดมอดีตพลตำรวจก็คว้าปีนเผ่นลงกล่องไฟฉากขาว
จากบ้านกระโจนไปยังไร่อ้อย เกิดการยิงต่อสู้กันแต่สุดท้ายก็จำนนตรวจค้นในบ้านไม่พบอะไรแต่นอกบ้านกลับ พบทองคำแท่งจำนวนหนึ่งรวมกับทองรูปพรรณยัดฝังรวมกันในท่อเหล็กยังไม่หมดแค่นั้นนายอุดมถูกพามายังบริษัทสหมิตร ท่าสวัสดีวัดเกาะ นายอุดมมีหน้าที่คุมรถเมล์สายกรุงเทพฯ-จันทบุรี ค้นโต๊ะทำงานได้เงินเหรียญสิงคโปร์ ๑,๗๗๐ เหรียญห่อด้วยผ้าเช็ดหน้าซ่อนใต้โต๊ะสายกรุงเทพฯนายผายถูกนำตัวไปค้นที่บ้านถนนตากสิน พบทองแท่งของกลาง ๕ แท่ง ทองรูปพรรณมีแหวนเข็มชัดนาค สร้อยคอและจี้รวมไปถึงเงินเหรียญสิงคโปร์อีก ๓,๙๐๐ เหรียญทั้งหมดนี้ยัดใส่ไหกระเทียมฝังไว้ใต้ถุนบ้านทองคำแท่งได้คืนมาครบเมื่อรวมจากบ้านนายอุดม กล่องไฟถ่ายภาพสินค้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น