วันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2559


รูปแบบหรือกลวิธีทำอย่างไร กล่องไฟถ่ายภาพ ถ่ายแล้วให้รูปออกมาดี

ปรามอาชญากรรมในยุคนั้นมักหนีไม่พ้นวิสามัญฆาตกรรม ชื้นอยู่กับรูปแบบหรือกลวิธีกระทำจะทำได้แนบเนียนแค่ไหนในต่างจังหวัดเองก็มักจะใช้วิธีการนี้ซึ่งถือว่ายิงนกได้สองตัวด้วยกระสุนนัดเดียว คือปราบมิจฉาชีพให้หมดไปผลที่ตามมาก็จะทำให้บางผู้คนคิดระย่อหมดเรี่ยวแรงที่จะประกอบ
อาชญากรรมเพราะกลัวจะถูก ยิงทิ้งทำนองนั้นแม้ปัจจุบันนี้ก็เชื่อว่ายังมีหลงเหลืออยู่บ้างในขณะที่จะยักย้ายวิธีการที่เรียกกันว่าฆ่าตัดตอน ก็น่าจะไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ก่อนหน้านั้นไม่กี่วัน ผมได้ถูกย้ายจาก ข่าวศาลไปอยู่กระทรวงมหาดไทยมาถึงตรงนี้คงต้องเลี้ยวไปหาชีวิตส่วนตัวสักหน่อยเป็นส่วนตัวที่มีเรื่องราวของคนรักกันด้วยสายเลือดคนหนังสือพิมพ์ได้แต่งงานกัน กล่องไฟสตูดิโอ นั่นคือระหว่างคุณสนิท เอกชัยกับคุณเสรมศรี สุวรรณนาสร์ ซึ่งยังคงทำงานนครสารก่อนถึงกำหนดแต่งงานคุณสนิทและคุณเสริมศรีก็จัดการปลูกเรือนหอภายในพื้นที่อันอยู่ในบริเวณบ้านของนายทองพันธุ สุวรรณทัตหัวหน้าฝ่ายเรียงพิมพ์โรงพิมพ์นครสารซึ่งรู้จักมักคุ้นกันดีทั้งบ่าวและสาวเป็นเรือนไม้หลังเล็กๆแต่มีห้องนอนที่ค่อนข้างยาวมากกว่ากว้างหนึ่งห้องจะเป็นห้องของบ่าวสาวอีกห้องขนาดลี้เหลี่ยมจัตุรัสไม่กว้างมากในส่วนที่จะใช้เป็นครัวก็ต้องเดินลงระดับล่างรวมทั้งเป็นส่วนห้องนํ้าด้วยทางด้านหน้าบ้าน
กล่องไฟฉากขาว มีเฉลียงยื่นออกมาทางขึ้นบ้านจึงเป็นบันไดสามหรือห้าขั้นก็จำไม่ได้ ตรงบันไดมีบริเวณ มีตุ่มน้ำเรือนหอหลังนอยู่ใกล้รัวในซอยสารสินซึงในเวลาโนเป็นถนนคนเดินมีคลองยาวจากถนนราชดำริทางด้านสารสินยาวไปถึงถนนวิทยุ จะเข้าบ้านนี้ทางไหนก็ได้คุณสนิทเตรียมตัวเตรียมเงินอย่างชุลมุนชุลเกเพราะต้องชื้อข้าวของเครื่องใช้มากมายนับตั้งแต่เตียงนอนยันเครื่องครัวที่ดูเหมือนคุณเสริมศรีจะช่วยแบ่งเบาภาระด้วยคุณสนิทเอานวนิยายเรื่องยาวชื่อคอยก่อนแสงตะวัน ขายให้เดลิเมล์วันจันทร์ ได้ค่าเรื่องมา ๑,๒๐๐.๐๐ บาทเพียงพอต่อการจับจ่ายผมรู้ค่อนข้างละเอียดเพราะเราเป็นคนเมืองชลด้วยกัน เคยนั่งรถเมล์เข้ามาเพื่อทำงานหนังสือพิมพ์ด้วยกันจนผมเองก็เกือบจะไม่ได้เข้ามาในทะเลน้าหมึกถ้าหากคุณสมบูรณ์ วิริยศิริ กล่องไฟ light boxไม่ไปคว้าข้อมือผมถึงบ้านงานแต่งงานมีได้มีข่าวเอิกเกริกเหมือนสมัยนี้ ทั้งๆที่คนทั้งสองต้องถือว่าเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในด้านของสื่อมวลชนไม่น้อยเลย ทั้งดูแต่งงานวันที่ ๒๒ กรกฎาคมเข้าเรือนหอหลังนี้เรียบร้อยแต่ทั้งคู่มิได้ถือสาอะไรทำพิธีแล้วก็ออกมานั่งดวนสุรากับเพื่อนพ้องที่มาพร้อมวงกันที่เฉลียงนั้นจนดึกดื่นแล้วจึงได้ลากลับไปคุณเสริมศรีปักหลักที่นครสารในขณะที่คุณสนิทก็บุกลุยอยู่กับเดลิเมล์รายวันสำหรับการย้ายสายข่าวจากศาลมาเป็นกระทรวงของผมนั่นยังไม่เป็นโล้เป็นพายลักเท่าไหร่ เพราะมืข้อแม้ว่าถ้ามีการสืบพยานในคดี แมนรัตตัน เมื่อไหร่ผมจะต้องไปทำข่าวเมื่อนั่นด้วยเหตุนี้ เมื่อจอมพล ป.พิบูลสงครามต้องไปเบิกความเป็นพยานที่ศาลในวันที่ ๑oมกราคม ๒๔๙๕ผมจึงต้องไปทำหน้าที่นั่นที่บัลลังก์๒๕ จอมพลป.ให้การตามคำ light box 
ซักถามของโจทก์คืออัยการว่า ได้ไปประกอบพิธีรับมอบเรือขุดลันดอนชื่อแมนรัตตัน ซึ่งเป็นของขวัญจากองค์การอีชีเอ สหรัฐอเมริกา ราคา๖๐o,๐๐o ดอลลาร์เมื่อพิธีรับมอบผ่านไปแล้วจึงได้เดินชมกิจการในเรือนั้น น.ต.มนัสจารุภากับทหารเรือบางคนเข้ามาจี้บังคับให้ลงเรือเปิดหัวของกองทัพเรือที่มาจอดรออยู่แล้วแล่นไปทางเหนือ สตูดิโอ light boxจนถึงเรือรบหลวงศรีอยุธยาจึงเอาตัวขึ้นเรือ แล้วพา เอาไปไว่ในห้องห้องหนึ่งน.ต.มนัสได้พูดกับพยานว่าบ้านเมืองเวลานี้ถ้าทิ้งไว้เหินจะไปไม่รอดต่อจากนั้นไม่นาน น.อ.อานนท์ ปุณทัริกาภาได้เข้ามากราบขอโทษที่ต้องทำอย่างนี้แล้วกลับออกไปต่อมาร.ท.สมหมายได้ถือจดหมายมาล่งให้บอกว่าเป็นจดหมายของน.อ.อานนท์ซึ่งขอให้พยานทำหนังสือลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี กล่องไฟถ่ายภาพสินค้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น